HOW TO วิธีเริ่มขายของใน ebay พร้อมวิธีการส่งค้าไปต่างประเทศ

            วิธีเริ่มขายของใน ebay พร้อมวิธีการส่งค้าไปต่างประเทศ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก ebay ถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ ที่มีความนิยมในไทยและทั่วโลกมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก eBay ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขายที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์ แม้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในวงการออนไลน์และการค้าขายออนไลน์เป็นที่ต้องการในปัจจุบัน ซึ่ง อีคอมเมิร์ซ ของไทยในปัจจุบัน อาจไม่สามารถนำสินค้าของคุณกระจายไปทั่วโลกได้ ซึ่ง ebay ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ แล้วถ้าคุณต้องการขายของบน ebay ต้องทำอย่างไร วันนี้ SME SHIPPING จะมาแชร์วิธีเริ่มขายของใน ebay พร้อมวิธีการส่งค้าไปต่างประเทศ โดยวิธีเริ่มขายของใน ebay พร้อมวิธีการส่งค้าไปต่างประเทศ จะอธิบายได้ดังนี้

 

ebay ดีอย่างไร

 

  • ชุมชนขนาดใหญ่: eBay มีชุมชนผู้ใช้ที่ใหญ่มาก ทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้หลากหลายและมีลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากทั่วโลก
  • การค้นหาที่สะดวก: ระบบค้นหาของ eBay ช่วยให้ผู้ซื้อหาสินค้าได้ง่าย และช่วยให้ผู้ขายมีโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น
  • ค่าธรรมเนียมที่เป็นไปได้: eBay มีค่าธรรมเนียมในการขายสินค้า แต่มีความยืดหยุ่นในการเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับการขายของคุณ
  • ระบบการป้องกันผู้ซื้อและผู้ขาย: eBay มีระบบการป้องกันทั้งสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างปลอดภัย
  • การส่งของที่มีคุณภาพ: eBay มีบริการในการตรวจสอบผู้ขายและรายการสินค้าเพื่อให้ความมั่นใจในการซื้อขายสินค้า
  • ระบบการส่งของที่สะดวก: eBay มีคู่ค้าในการจัดส่งที่มีคุณภาพ ทำให้การส่งสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

 

วิธีเริ่มขายของใน ebay

 

วิธีเริ่มขายของใน ebay ไม่ยากเลย นี่คือขั้นตอนที่ง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเพื่อเริ่มขายสินค้าใน eBay

 

  • สร้างบัญชีผู้ใช้: หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้ eBay คุณจำเป็นต้องสร้างบัญชีก่อนที่จะเริ่มขายสินค้า ไปที่เว็บไซต์ของ eBay และคลิกที่ “Register” หรือ “Sign Up” เพื่อสร้างบัญชีใหม่ กรอกรายละเอียดที่จำเป็นและทำการยืนยันบัญชีของคุณ
  • ศึกษากฎและนโยบายของ eBay: ทำความเข้าใจกับกฎและนโยบายของ eBay เกี่ยวกับการขายสินค้า รวมถึงค่าธรรมเนียมในการขายและนโยบายการคืนสินค้า
  • เลือกวิธีการขาย: เลือกวิธีการขายที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณ เช่น Auction-style (การประมูล), Buy It Now (การซื้อทันที), หรือ Fixed Price (ราคาคงที่)
  • สร้างรายการสินค้า: คลิกที่ “Sell” หรือ “Create listing” เพื่อสร้างรายการสินค้าใหม่ กรอกรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อสินค้า, รายละเอียด, รูปภาพ, ราคา, และเงื่อนไขการขาย
  • เลือกวิธีการจัดส่ง: ระบุวิธีการจัดส่งสินค้าที่คุณใช้ รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดส่งและเวลาการจัดส่ง
  • เลือกวิธีการชำระเงิน: ระบุวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการให้ลูกค้าใช้ เช่น PayPal, บัตรเครดิต, หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร
  • ตรวจสอบและเผยแพร่รายการ: ตรวจสอบข้อมูลในรายการสินค้าอีกครั้งและเผยแพร่รายการสินค้า เมื่อคุณเชื่อมั่นในข้อมูลทั้งหมด
  • จัดการรายการ: คอยติดตามการเสนอขายของคุณ ตอบกลับคำถามจากผู้ซื้อและปรับปรุงรายการของคุณตามความจำเป็น
  • ส่งสินค้าและบริการลูกค้า: หลังจากที่คุณขายสินค้าและรับการชำระเงิน จัดส่งสินค้าตามที่ได้ตกลงกับผู้ซื้อ และให้บริการลูกค้าอย่างดี
  • รับการชำระเงินและติดตามรีวิว: รับการชำระเงินจากผู้ซื้อ และติดตามรีวิวจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ขายสินค้าในอนาคต

 

วิธีการส่งค้าไปต่างประเทศ

 

  • เลือกวิธีการจัดส่ง: เมื่อคุณสร้างรายการสินค้าใน eBay คุณจะต้องเลือกวิธีการจัดส่งที่สามารถส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ ระบุวิธีการจัดส่งที่เหมาะสมสำหรับประเทศปลายทางและสินค้าของคุณ
  • ระบุรายละเอียดการจัดส่ง: กรอกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งต่างประเทศ เช่น ที่อยู่ปลายทาง, การปรับปรุงการจัดส่ง, และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
  • คำนึงถึงกฎหมายและข้อจำกัด: ในการส่งสินค้าไปต่างประเทศ คุณจะต้องทำความเข้าใจกับกฎหมายและข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้าสินค้าของประเทศปลายทาง รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับภาษีและภาษีที่เกี่ยวข้อง
  • ชำระค่าจัดส่งและเลือกบริการจัดส่ง: ระบุวิธีการชำระค่าจัดส่งและเลือกบริการจัดส่งที่คุณต้องการใช้ เช่น ลงทะเบียน, EMS, หรือควบคุมการจัดส่งอื่นๆ
  • พิมพ์ป้ายที่ส่งสินค้า: พิมพ์ป้ายที่ส่งสินค้าและแนบไปกับสินค้า โดยระบุที่อยู่ปลายทางอย่างชัดเจน
  • ติดตามสถานะการจัดส่ง: ตรวจสอบสถานะการจัดส่งของสินค้าและทำการติดตามสินค้าจนถึงปลายทาง
  • บริการลูกค้าและการคืนเงิน: ให้บริการลูกค้าอย่างดีและรับการคืนเงินในกรณีที่สินค้าไม่ถึงหรือเสียหายในการขนส่ง
  • ประเมินประสิทธิภาพ: ประเมินประสิทธิภาพของการจัดส่งและปรับปรุงตามความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า

 

วิธีเริ่มขายของใน ebay เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้ และคุณก็จะเริ่มขายสินค้าใน eBay ได้แล้ว! อย่าลืมทำการโปรโมทสินค้าของคุณเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายด้วยนะคะ และอย่าลืมปฏิบัติตามนโยบายและกฎของ eBay เสมอ เพื่อให้การขายของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

 

ข้อมูลเกี่ยวกับ Incoterm

 Incoterm สำคัญอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง สำหรับการค้าขาย หรือส่งพัสดุต่างประเทศ

                               การขนส่งรวมไปถึงการเดินทางที่ต้องออกนอกประเทศหรือข้ามประเทศนั้น มักจะมาพร้อมกับเงื่อนไขหรือกฏเกณณ์ต่างๆ ที่อาจทำให้คุณเกิดความยุ่งยากและสับสน สำหรับการส่งพัสดุต่างประเทศนั้น Incoterm ถือได้ว่าเป็นเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศที่คุณต้องทราบ เนื่องจาก Incoterm คือเงื่อนไขในการส่งมอบสินค้าระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทราบถึงขอบเขตความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย รวมถึงความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายนั้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำธุรกิจส่งออกหรือนำเข้าต้องทราบ แล้ว Incoterm สำคัญอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง สำหรับการค้าขาย หรือส่งพัสดุต่างประเทศ วันนี้ SME SHIPPING จะมาอธิบายว่า Incoterm สำคัญอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง สำหรับการค้าขาย หรือส่งพัสดุต่างประเทศ ได้ดังนี้

 

Incoterm คือ

                              Incoterm สำคัญอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง สำหรับการค้าขาย หรือส่งพัสดุต่างประเทศ กล่าวคือIncoterm คือคำย่อของ “International Commercial Terms” หรือ “เงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศ” ซึ่งเป็นเกณฑ์และข้อกำหนดที่ใช้ในการกำหนดความรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดย Incoterms กำหนดเงื่อนไขการจัดส่งสินค้า เช่น ค่าขนส่ง การประกัน การส่งมอบสินค้า และความรับผิดชอบต่างๆ ระหว่างฝ่ายขายและฝ่ายซื้อ นอกจากนี้ยังช่วยลดความสับสนและข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศด้วยคำนิยามที่ชัดเจนของหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายในแต่ละเงื่อนไขของ Incoterms ที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับการทำธุรกิจที่แตกต่างกัน

Incoterm สำคัญอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง สำหรับการค้าขาย หรือส่งพัสดุต่างประเทศและมีอะไรบ้าง

Incoterms คือเกณฑ์และข้อกำหนดที่ใช้ในการกำหนดความรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มีทั้งหมด 11 เทอมด้วยกัน ต่อไปนี้คือ Incoterms และคำอธิบายของแต่ละเทอม

  • EXW (Ex Works) – ผู้ขายส่งมอบสินค้าที่สถานที่ผู้ซื้อกำหนด โดยผู้ซื้อรับผิดชอบทุกค่าใช้จ่ายตั้งแต่สถานที่ของผู้ขาย
  • FCA (Free Carrier) – ผู้ขายส่งมอบสินค้าถึงผู้ขนส่งที่สถานที่ที่กำหนดโดยผู้ซื้อ ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งถึงสถานที่นั้น
  • FAS (Free Alongside Ship) – ผู้ขายส่งมอบสินค้าลงในเรือที่ท่าเรือตามที่ผู้ซื้อกำหนด ผู้ขายรับผิดชอบสินค้าจนถึงการโหลดในเรือ
  • FOB (Free On Board) – ผู้ขายส่งมอบสินค้าบนเรือที่ท่าเรือตามที่ผู้ซื้อกำหนด ผู้ขายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจนกว่าสินค้าจะขึ้นเรือ
  • CFR (Cost and Freight) – ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือปลายทาง แต่ความเสี่ยงจะถูกโอนให้กับผู้ซื้อเมื่อสินค้าอยู่บนเรือ
  • CIF (Cost, Insurance, and Freight) – เหมือนกับ CFR แต่รวมถึงค่าประกันสินค้าด้วย
  • CPT (Carriage Paid To) – ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ที่กำหนดโดยผู้ซื้อ
  • CIP (Carriage and Insurance Paid To) – เหมือน CPT แต่รวมถึงค่าประกันสินค้าด้วย
  • DPU (Delivered at Place Unloaded) – ผู้ขายรับผิดชอบการจัดส่งสินค้าไปยังสถานที่ที่กำหนดโดยผู้ซื้อ โดยไม่มีการโหลดหรือไม่โหลดของ
  • DAP (Delivered at Place) – เหมือน DPU แต่รวมถึงการโหลดหรือไม่โหลดของด้วย
  • DDP (Delivered Duty Paid) – ผู้ขายรับผิดชอบการจัดส่งสินค้าไปยังสถานที่ที่กำหนดโดยผู้ซื้อ รวมถึงการจ่ายค่าภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

                          กล่าวได้ว่าการเลือกใช้ Incoterms ที่เหมาะสมมีความสำคัญในการกำหนดความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าระหว่างฝ่ายขายและฝ่ายซื้อ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับแต่ละเทอมและความสอดคล้องกับการค้าของคุณก่อนที่จะกำหนดเงื่อนไขในสัญญาซื้อขาย