BLOG

ขนส่ง dhl กับระบบ Workflow ครอบคลุมได้ทั่วโลก

ขนส่ง dhl กับระบบ Workflow ครอบคลุมได้ทั่วโลก

ขนส่ง dhl กับระบบ Workflow ครอบคลุมได้ทั่วโลก

ขนส่ง dhl  ในวันที่ทั้งโลกอยู่ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีอิทธิพลในการใช้ชีวิตเกือบ 100% ทั้งการสื่อสาร, คมนาคม, สินค้าอุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวัน ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้โลกธุรกิจ เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตผู้บริโภคยุคใหม่เช่นกัน   การใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน สร้างกระบวนการทำงานแบบ Automate เพื่อทดแทนการทำงานที่ต้องใช้มนุษย์ ช่วยเร่งให้ธุรกิจเติบโตเร็วขึ้น จากความสามารถด้านการประมวลผล, เพิ่มประสิทธิภาพให้การตรวจสอบ และทำให้กระบวนการทำงานเป็นไปโดยอัตโนมัติให้ได้มากที่สุด เช่น ระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Machine learning, เครื่องมือแบบ Low-code/no-code, เครื่องมือจัดกระบวนการเอกสารภายในองค์กร เป็นต้น   ซึ่ง ระบบ Workflow จัดอยู่ในส่วนหนึ่งของ Hyperautomation เช่นกัน เพราะเป็นเทคโนโลยีใช้จัดการโครงสร้างการทำงานภายในองค์กร ตั้งแต่การระบุตำแหน่งบุคลากร แผนก และงานที่รับผิดชอบ โดยที่ผู้ใช้งานระบบสามารถประสานงาน และจัดการงานเอกสาร, ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านระบบ Workflow และที่สำคัญคือ ตัวระบบเป็นแบบ Low-code เข้าใช้ได้หลายอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มือถือ สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต พร้อมวิธีการใช้งานแบบง่าย ๆ ให้คุณสามารถ จัด Workflow ทั้งองค์กร ได้เพียงแค่ลากเมาส์ ขนส่ง dhl หากคุณเป็นหนึ่งในองค์กรที่อยากปรับตัวตามเทรนด์เทคโนโลยีวันนี้ เรามีตัวอย่างองค์กรระดับโลกที่นำระบบ Workflow ไปใช้ในกระบวนการทำงานแบบครอบคลุมได้ทั่วโลกในระบบเดียว ผู้ให้บริการขนส่งทั้งภายในและระหว่างประเทศ ใช้เทคโนโลยี Cognitive Workflow Automation พัฒนาในส่วนของกระบวนการกระจายสินค้าไปทั่วโลก ซึ่งมีการทำงานตลอด 24 ชม. โดยการส่งสินค้าไปแต่ละประเทศต้องผ่านจุดส่งมอบหลายสิบจุด ให้เป็นไปตาม 7 ขั้นตอนหลัก ดังนี้  
  1. Pick Up: เข้ารับพัสดุที่ต้องการจัดส่ง
  2. Outbound: แยกประเภทพัสดุ/ประเทศปลายทางเพื่อส่งไปสนามบิน
  3. Export: ลำเลียงพัสดุเข้าตู้เก็บสินค้าและเตรียมส่งออก
  4. Transit: ทำการขนส่งทางอากาศสู่ประเทศปลายทาง
  5. Import: ตรวจสอบพัสดุโดยศุลกากรประเทศปลายทาง
  6. Inbound: กระจายพัสดุให้คนส่งของในพื้นที่
  7. Delivery: จัดส่งพัสดุถึงหน้าบ้านผู้รับ
  แน่นอนว่ากว่าจะผ่านทั้ง 7 ขั้นตอน ต้องเจอกับเอกสารหลายล้านฉบับในระหว่างทางการขนส่ง ซึ่งเอกสารแต่ละฉบับก็จะมีข้อมูลและรูปแบบแตกต่างกันไปตามพื้นที่ – ขั้นตอนดำเนินการ ตั้งแต่ใบกำกับสินค้า (แสดงข้อมูลและราคาสินค้า), ใบนำส่ง (แสดง Tracking Number), ใบตราส่งสินค้าทางเรือ/ทางอากาศ, ใบขนสินค้าขาเข้า/ขาออก, บัญชีสินค้า/แพ็กเกจ รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่ใช้ยื่นกรมศุลกากร       นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเข้ามาเพิ่มความสะดวกให้พนักงานใช้จัดการเอกสาร คือ โปรแกรม Optical Character Recognition (OCR) ตัวช่วยอ่านข้อความจากเอกสาร PDF ไฟล์รูปภาพ หรือลายมือในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ส่งผลให้ข้อมูลที่ใช้ประสานงาน มีความแม่นยำมากกว่า 99% ยิ่งใช้ร่วมกับระบบ Workflow ก็ยิ่งเพิ่มความคล่องตัวในการขนส่งให้รวดเร็วขึ้น บริการอย่างต่อเนื่องและรักษามาตรฐานการบริการ    

ขนส่ง dhl 3 ประเด็นสำคัญ ที่ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ระบบ Workflow เข้าไปพัฒนารูปแบบการทำงาน ดังนี้

 

1.สามารถกำหนดเส้นทางการทำงานได้ชัดเจน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าระบบ Workflow ก็เหมือนผังองค์กรในรูปแบบออนไลน์ แต่สามารถใช้ทำงานได้ด้วย อย่าง DHL ที่นำเอากระบวนการกระจายสินค้าทั่วโลกอยู่ในระบบเดียว เพื่อให้ข้อมูลมันสามารถดำเนินการไปได้อัตโนมัติตามเส้นทางการขนส่งทั้ง 7 ขั้นตอน ไม่ต้องมีบุคลากรมาคอยถือใบเอกสารเพื่อนำไปประสานงาน หรือนับข้อมูลว่าครบถ้วนหรือไม่  

2.จัดการข้อมูลและเอกสารแบบ Real Time

เห็นได้จากตัวอย่างเอกสารการขนส่งของ DHL ที่มีข้อมูลและรูปแบบแตกต่างกัน เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ ย่อมมีการใช้ฟอร์มเอกสารภายในองค์กรไม่เหมือนกัน ไหนจะเอกสารบัญชี จัดซื้อหรืองานลูกค้า ซึ่งผู้ใช้งานระบบ Workflow สามารถแยกเอกสารได้ตามโครงการ อีกทั้งส่งต่อ แจ้งแก้ไข ขออนุมัติ โดยสามารถติดตามสถานะเอกสารแต่ละฉบับได้แบบ Real Time  

3.มีระบบเก็บข้อมูลให้ตรวจสอบย้อนหลังได้

เมื่อผู้ใช้งานมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อมูลในเอกสาร ระบบ Workflow จะยังคงเก็บประวัติ Version เก่าไว้ โดยในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง สามารถดูได้ว่าใครคือคนแก้ไข และเกิดขึ้นเมื่อวัน/เวลาใด ที่สำคัญเอกสารทุกฉบับสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะผู้เกี่ยวข้องได้ เพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กรสูญหาย   อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดไหน ก็ควรเลือกระบบ Workflow ที่เหมาะกับรูปแบบธุรกิจ และวิถีการทำงานของบุคลากร คือไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อนเกินไป ซึ่งระบบ Workflow สามารถปรับเส้นทางการทำงาน ได้ตามโครงสร้างของทุกองค์กร  

ทำไมต้องส่งกับ SME SHIPPING

เราเชี่ยวชาญด้านบริการครบวงจรเรื่องการขนส่ง ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วโลก

– ส่งง่าย เรามีบริการรับส่งแบบ Door to Door พร้อมทำเอกสารให้กับลูกค้า

– ส่งไว เราส่งสินค้าวันต่อวัน ถึงมือปลายทางรวดเร็ว 2-5 วัน เท่านั้น

– ส่งได้ทั่วโลก เราส่งได้ทั่วโลกมากกว่า 200 ประเทศ พร้อมรับประกันสินค้าสูงสุด 10,000 บาท

 

SME SHIPPING ส่งของให้กับคุณ

บริการส่งของสินค้าไปต่างประเทศ ส่งง่าย ส่งได้ทั่วโลก

ส่งไปได้ทั่วโลกมากกว่า 200 ประเทศทั้งทางรถ ทางเรือ ทางเครื่องบิน ชิ้นเดียวก็ส่งได้ ส่งได้ทั่วโลก รับประกันสูงสุด

หมวดหมู่บทความ

บทความอื่นๆ

แชร์คอนเท็นต์

Facebook
Email
Twitter