BLOG

ขายของใน Marketplace ใดขายดีที่สุด | SME Shipping

ขายของใน Marketplace คืออะไร? Marketplace ใดดีที่สุด?

 เริ่มต้นขายของใน Marketplace ควรเริ่มจากตรงไหนดี? ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Marketplace ก่อนว่ามันคืออะไร  และแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นหรือข้อดีแตกต่างกันยังไง บางที่เหมาะกับสินค้าทั่วไป บางที่เหมาะกับของแฮนด์เมด หรือของนำเข้า การเข้าใจแพลตฟอร์มที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อรู้พื้นฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การเลือกสินค้า การตั้งราคา ไปจนถึงการโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งวันนี้ SME Shipping จะพาคุณไปรู้จักกับ Marketplace ให้มากขึ้นว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับตลาดไหนมากที่สุด

Marketplace คืออะไร?

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Marketplace ก็คือตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ขายก็สามารถลงประกาศขายสินค้า ตั้งราคาขาย และติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผู้ซื้อเองก็สามารถเลือกชม เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกขึ้น โดย Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. C2C (Consumer to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปสามารถขายสินค้าให้กับบุคคลอื่นได้ เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, Shopee (หมวดสินค้ามือสอง)
  2.  B2C (Business to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไป เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Amazon
  3. B2B (Business to Business): เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจ เช่น Alibaba, ThaiTrade

Marketplace ใดดีที่สุด?

การเลือก Marketplace เพื่อวางขายสินค้าแล้วถามว่าตลาดไหนดีที่สุด?  ในแต่ละตลาดจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย ค่าธรรมเนียมการขาย และระบบสนับสนุนผู้ขาย โดยในปี 2025 นี้มี Marketplace ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการขายสินค้าในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

  1. Facebook ตลาดออนไลน์ที่เหมาะสำหรับขายสินค้ามือสอง ของใช้ทั่วไป และสินค้าในท้องถิ่น ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  2. Shopee แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท มีระบบสนับสนุนการชำระเงินและจัดส่งสินค้า มีโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
  3. Lazada แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ แบรนด์แท้ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง
  4. JD Central ตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
  5. TikTok Shop แพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าที่สามารถโปรโมตผ่านคอนเทนต์วิดีโอ มีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเข้าถึงคนดูได้อย่างรวดเร็วผ่านการ Live สด
  6. Amazon & eBay แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น

เปรียบเทียบ Marketplace ยอดนิยมในปี 2025

Marketplaceจุดเด่นเหมาะกับสินค้าข้อจำกัด
Facebookใช้งานฟรี, เหมาะกับของมือสองของมือสอง, ของใช้ทั่วไปไม่มีระบบจัดส่ง, การมองเห็นโพสต์ไม่แน่นอน
Shopeeฐานลูกค้าขนาดใหญ่, รองรับ COD(บริการเก็บเงินปลายทาง)สินค้าทั่วไป, อีคอมเมิร์ซค่าธรรมเนียมขาย, แข่งขันสูง
Lazadaระบบร้านค้าดี, Fulfillmentอิเล็กทรอนิกส์, ของใช้ในบ้านค่าธรรมเนียมสูง, ต้องทำการตลาด
TikTok Shopขายผ่านวิดีโอ, ไลฟ์สดเครื่องสำอาง, เสื้อผ้าต้องผลิตคอนเทนต์, อัลกอริธึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
Amazonตลาดสากล, Fulfillmentแบรนด์ที่ต้องการขายต่างประเทศค่าธรรมเนียมสูง, การแข่งขันสูง
eBayขายทั่วโลก, เหมาะกับของสะสมของสะสม, สินค้าหายากต้องตั้งค่าระบบการขายให้ดี

วิธีเลือก Marketplace ให้เหมาะกับสินค้า

  • หากต้องการ ขายของมือสองหรือสินค้าในท้องถิ่น → Facebook Marketplace, Kaidee
  • หากต้องการ ขายสินค้าใหม่ในตลาดทั่วไป → Shopee, Lazada
  • หากต้องการ ใช้วิดีโอและไลฟ์สดในการขาย → TikTok Shop
  • หากต้องการ ขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ → Amazon, eBay
  • หากต้องการ ขายสินค้าแบรนด์แท้หรือพรีเมียม → JD Central

ในปี 2025 Shopee, Lazada และ TikTok Shop ยังคงเป็น Marketplace ยอดนิยมในไทย ส่วน Amazon และ eBay เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ Facebook Marketplace เหมาะสำหรับการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้นก่อนวางขายสินค้าอย่าลืมเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์การขายให้ดี รวมทั้งเลือกระบบขนส่งที่ไว้ได้ใจ เพราะการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนการผลิตและสร้างกำไรจากธุรกิจนั้นได้

ขายของใน Marketplace ใดขายดีที่สุด | SME Shipping

ขายของใน Marketplace คืออะไร? Marketplace ใดดีที่สุด?

 เริ่มต้นขายของใน Marketplace ควรเริ่มจากตรงไหนดี? ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Marketplace ก่อนว่ามันคืออะไร  และแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นหรือข้อดีแตกต่างกันยังไง บางที่เหมาะกับสินค้าทั่วไป บางที่เหมาะกับของแฮนด์เมด หรือของนำเข้า การเข้าใจแพลตฟอร์มที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อรู้พื้นฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การเลือกสินค้า การตั้งราคา ไปจนถึงการโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งวันนี้ SME Shipping จะพาคุณไปรู้จักกับ Marketplace ให้มากขึ้นว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับตลาดไหนมากที่สุด

Marketplace คืออะไร?

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Marketplace ก็คือตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ขายก็สามารถลงประกาศขายสินค้า ตั้งราคาขาย และติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผู้ซื้อเองก็สามารถเลือกชม เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกขึ้น โดย Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. C2C (Consumer to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปสามารถขายสินค้าให้กับบุคคลอื่นได้ เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, Shopee (หมวดสินค้ามือสอง)
  2.  B2C (Business to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไป เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Amazon
  3. B2B (Business to Business): เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจ เช่น Alibaba, ThaiTrade

Marketplace ใดดีที่สุด?

การเลือก Marketplace เพื่อวางขายสินค้าแล้วถามว่าตลาดไหนดีที่สุด?  ในแต่ละตลาดจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย ค่าธรรมเนียมการขาย และระบบสนับสนุนผู้ขาย โดยในปี 2025 นี้มี Marketplace ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการขายสินค้าในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

  1. Facebook ตลาดออนไลน์ที่เหมาะสำหรับขายสินค้ามือสอง ของใช้ทั่วไป และสินค้าในท้องถิ่น ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  2. Shopee แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท มีระบบสนับสนุนการชำระเงินและจัดส่งสินค้า มีโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
  3. Lazada แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ แบรนด์แท้ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง
  4. JD Central ตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
  5. TikTok Shop แพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าที่สามารถโปรโมตผ่านคอนเทนต์วิดีโอ มีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเข้าถึงคนดูได้อย่างรวดเร็วผ่านการ Live สด
  6. Amazon & eBay แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น

เปรียบเทียบ Marketplace ยอดนิยมในปี 2025

Marketplaceจุดเด่นเหมาะกับสินค้าข้อจำกัด
Facebookใช้งานฟรี, เหมาะกับของมือสองของมือสอง, ของใช้ทั่วไปไม่มีระบบจัดส่ง, การมองเห็นโพสต์ไม่แน่นอน
Shopeeฐานลูกค้าขนาดใหญ่, รองรับ COD(บริการเก็บเงินปลายทาง)สินค้าทั่วไป, อีคอมเมิร์ซค่าธรรมเนียมขาย, แข่งขันสูง
Lazadaระบบร้านค้าดี, Fulfillmentอิเล็กทรอนิกส์, ของใช้ในบ้านค่าธรรมเนียมสูง, ต้องทำการตลาด
TikTok Shopขายผ่านวิดีโอ, ไลฟ์สดเครื่องสำอาง, เสื้อผ้าต้องผลิตคอนเทนต์, อัลกอริธึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
Amazonตลาดสากล, Fulfillmentแบรนด์ที่ต้องการขายต่างประเทศค่าธรรมเนียมสูง, การแข่งขันสูง
eBayขายทั่วโลก, เหมาะกับของสะสมของสะสม, สินค้าหายากต้องตั้งค่าระบบการขายให้ดี

วิธีเลือก Marketplace ให้เหมาะกับสินค้า

  • หากต้องการ ขายของมือสองหรือสินค้าในท้องถิ่น → Facebook Marketplace, Kaidee
  • หากต้องการ ขายสินค้าใหม่ในตลาดทั่วไป → Shopee, Lazada
  • หากต้องการ ใช้วิดีโอและไลฟ์สดในการขาย → TikTok Shop
  • หากต้องการ ขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ → Amazon, eBay
  • หากต้องการ ขายสินค้าแบรนด์แท้หรือพรีเมียม → JD Central

ในปี 2025 Shopee, Lazada และ TikTok Shop ยังคงเป็น Marketplace ยอดนิยมในไทย ส่วน Amazon และ eBay เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ Facebook Marketplace เหมาะสำหรับการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้นก่อนวางขายสินค้าอย่าลืมเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์การขายให้ดี รวมทั้งเลือกระบบขนส่งที่ไว้ได้ใจ เพราะการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนการผลิตและสร้างกำไรจากธุรกิจนั้นได้

ขายของใน Marketplace คืออะไร? Marketplace ใดดีที่สุด?

 เริ่มต้นขายของใน Marketplace ควรเริ่มจากตรงไหนดี? ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Marketplace ก่อนว่ามันคืออะไร  และแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นหรือข้อดีแตกต่างกันยังไง บางที่เหมาะกับสินค้าทั่วไป บางที่เหมาะกับของแฮนด์เมด หรือของนำเข้า การเข้าใจแพลตฟอร์มที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อรู้พื้นฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การเลือกสินค้า การตั้งราคา ไปจนถึงการโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งวันนี้ SME Shipping จะพาคุณไปรู้จักกับ Marketplace ให้มากขึ้นว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับตลาดไหนมากที่สุด

Marketplace คืออะไร?

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Marketplace ก็คือตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ขายก็สามารถลงประกาศขายสินค้า ตั้งราคาขาย และติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผู้ซื้อเองก็สามารถเลือกชม เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกขึ้น โดย Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. C2C (Consumer to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปสามารถขายสินค้าให้กับบุคคลอื่นได้ เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, Shopee (หมวดสินค้ามือสอง)
  2.  B2C (Business to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไป เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Amazon
  3. B2B (Business to Business): เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจ เช่น Alibaba, ThaiTrade

Marketplace ใดดีที่สุด?

การเลือก Marketplace เพื่อวางขายสินค้าแล้วถามว่าตลาดไหนดีที่สุด?  ในแต่ละตลาดจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย ค่าธรรมเนียมการขาย และระบบสนับสนุนผู้ขาย โดยในปี 2025 นี้มี Marketplace ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการขายสินค้าในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

  1. Facebook ตลาดออนไลน์ที่เหมาะสำหรับขายสินค้ามือสอง ของใช้ทั่วไป และสินค้าในท้องถิ่น ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  2. Shopee แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท มีระบบสนับสนุนการชำระเงินและจัดส่งสินค้า มีโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
  3. Lazada แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ แบรนด์แท้ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง
  4. JD Central ตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
  5. TikTok Shop แพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าที่สามารถโปรโมตผ่านคอนเทนต์วิดีโอ มีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเข้าถึงคนดูได้อย่างรวดเร็วผ่านการ Live สด
  6. Amazon & eBay แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น

เปรียบเทียบ Marketplace ยอดนิยมในปี 2025

Marketplaceจุดเด่นเหมาะกับสินค้าข้อจำกัด
Facebookใช้งานฟรี, เหมาะกับของมือสองของมือสอง, ของใช้ทั่วไปไม่มีระบบจัดส่ง, การมองเห็นโพสต์ไม่แน่นอน
Shopeeฐานลูกค้าขนาดใหญ่, รองรับ COD(บริการเก็บเงินปลายทาง)สินค้าทั่วไป, อีคอมเมิร์ซค่าธรรมเนียมขาย, แข่งขันสูง
Lazadaระบบร้านค้าดี, Fulfillmentอิเล็กทรอนิกส์, ของใช้ในบ้านค่าธรรมเนียมสูง, ต้องทำการตลาด
TikTok Shopขายผ่านวิดีโอ, ไลฟ์สดเครื่องสำอาง, เสื้อผ้าต้องผลิตคอนเทนต์, อัลกอริธึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
Amazonตลาดสากล, Fulfillmentแบรนด์ที่ต้องการขายต่างประเทศค่าธรรมเนียมสูง, การแข่งขันสูง
eBayขายทั่วโลก, เหมาะกับของสะสมของสะสม, สินค้าหายากต้องตั้งค่าระบบการขายให้ดี

วิธีเลือก Marketplace ให้เหมาะกับสินค้า

  • หากต้องการ ขายของมือสองหรือสินค้าในท้องถิ่น → Facebook Marketplace, Kaidee
  • หากต้องการ ขายสินค้าใหม่ในตลาดทั่วไป → Shopee, Lazada
  • หากต้องการ ใช้วิดีโอและไลฟ์สดในการขาย → TikTok Shop
  • หากต้องการ ขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ → Amazon, eBay
  • หากต้องการ ขายสินค้าแบรนด์แท้หรือพรีเมียม → JD Central

ในปี 2025 Shopee, Lazada และ TikTok Shop ยังคงเป็น Marketplace ยอดนิยมในไทย ส่วน Amazon และ eBay เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ Facebook Marketplace เหมาะสำหรับการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้นก่อนวางขายสินค้าอย่าลืมเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์การขายให้ดี รวมทั้งเลือกระบบขนส่งที่ไว้ได้ใจ เพราะการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนการผลิตและสร้างกำไรจากธุรกิจนั้นได้

ขายของใน Marketplace คืออะไร? Marketplace ใดดีที่สุด?

 เริ่มต้นขายของใน Marketplace ควรเริ่มจากตรงไหนดี? ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Marketplace ก่อนว่ามันคืออะไร  และแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นหรือข้อดีแตกต่างกันยังไง บางที่เหมาะกับสินค้าทั่วไป บางที่เหมาะกับของแฮนด์เมด หรือของนำเข้า การเข้าใจแพลตฟอร์มที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อรู้พื้นฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การเลือกสินค้า การตั้งราคา ไปจนถึงการโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งวันนี้ SME Shipping จะพาคุณไปรู้จักกับ Marketplace ให้มากขึ้นว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับตลาดไหนมากที่สุด

Marketplace คืออะไร?

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Marketplace ก็คือตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ขายก็สามารถลงประกาศขายสินค้า ตั้งราคาขาย และติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผู้ซื้อเองก็สามารถเลือกชม เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกขึ้น โดย Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. C2C (Consumer to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปสามารถขายสินค้าให้กับบุคคลอื่นได้ เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, Shopee (หมวดสินค้ามือสอง)
  2.  B2C (Business to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไป เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Amazon
  3. B2B (Business to Business): เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจ เช่น Alibaba, ThaiTrade

Marketplace ใดดีที่สุด?

การเลือก Marketplace เพื่อวางขายสินค้าแล้วถามว่าตลาดไหนดีที่สุด?  ในแต่ละตลาดจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย ค่าธรรมเนียมการขาย และระบบสนับสนุนผู้ขาย โดยในปี 2025 นี้มี Marketplace ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการขายสินค้าในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

  1. Facebook ตลาดออนไลน์ที่เหมาะสำหรับขายสินค้ามือสอง ของใช้ทั่วไป และสินค้าในท้องถิ่น ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  2. Shopee แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท มีระบบสนับสนุนการชำระเงินและจัดส่งสินค้า มีโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
  3. Lazada แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ แบรนด์แท้ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง
  4. JD Central ตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
  5. TikTok Shop แพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าที่สามารถโปรโมตผ่านคอนเทนต์วิดีโอ มีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเข้าถึงคนดูได้อย่างรวดเร็วผ่านการ Live สด
  6. Amazon & eBay แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น

เปรียบเทียบ Marketplace ยอดนิยมในปี 2025

Marketplaceจุดเด่นเหมาะกับสินค้าข้อจำกัด
Facebookใช้งานฟรี, เหมาะกับของมือสองของมือสอง, ของใช้ทั่วไปไม่มีระบบจัดส่ง, การมองเห็นโพสต์ไม่แน่นอน
Shopeeฐานลูกค้าขนาดใหญ่, รองรับ COD(บริการเก็บเงินปลายทาง)สินค้าทั่วไป, อีคอมเมิร์ซค่าธรรมเนียมขาย, แข่งขันสูง
Lazadaระบบร้านค้าดี, Fulfillmentอิเล็กทรอนิกส์, ของใช้ในบ้านค่าธรรมเนียมสูง, ต้องทำการตลาด
TikTok Shopขายผ่านวิดีโอ, ไลฟ์สดเครื่องสำอาง, เสื้อผ้าต้องผลิตคอนเทนต์, อัลกอริธึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
Amazonตลาดสากล, Fulfillmentแบรนด์ที่ต้องการขายต่างประเทศค่าธรรมเนียมสูง, การแข่งขันสูง
eBayขายทั่วโลก, เหมาะกับของสะสมของสะสม, สินค้าหายากต้องตั้งค่าระบบการขายให้ดี

วิธีเลือก Marketplace ให้เหมาะกับสินค้า

  • หากต้องการ ขายของมือสองหรือสินค้าในท้องถิ่น → Facebook Marketplace, Kaidee
  • หากต้องการ ขายสินค้าใหม่ในตลาดทั่วไป → Shopee, Lazada
  • หากต้องการ ใช้วิดีโอและไลฟ์สดในการขาย → TikTok Shop
  • หากต้องการ ขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ → Amazon, eBay
  • หากต้องการ ขายสินค้าแบรนด์แท้หรือพรีเมียม → JD Central

ในปี 2025 Shopee, Lazada และ TikTok Shop ยังคงเป็น Marketplace ยอดนิยมในไทย ส่วน Amazon และ eBay เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ Facebook Marketplace เหมาะสำหรับการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้นก่อนวางขายสินค้าอย่าลืมเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์การขายให้ดี รวมทั้งเลือกระบบขนส่งที่ไว้ได้ใจ เพราะการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนการผลิตและสร้างกำไรจากธุรกิจนั้นได้

ขายของใน Marketplace คืออะไร? Marketplace ใดดีที่สุด?

 เริ่มต้นขายของใน Marketplace ควรเริ่มจากตรงไหนดี? ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Marketplace ก่อนว่ามันคืออะไร  และแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นหรือข้อดีแตกต่างกันยังไง บางที่เหมาะกับสินค้าทั่วไป บางที่เหมาะกับของแฮนด์เมด หรือของนำเข้า การเข้าใจแพลตฟอร์มที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อรู้พื้นฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การเลือกสินค้า การตั้งราคา ไปจนถึงการโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งวันนี้ SME Shipping จะพาคุณไปรู้จักกับ Marketplace ให้มากขึ้นว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับตลาดไหนมากที่สุด

Marketplace คืออะไร?

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Marketplace ก็คือตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ขายก็สามารถลงประกาศขายสินค้า ตั้งราคาขาย และติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผู้ซื้อเองก็สามารถเลือกชม เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกขึ้น โดย Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. C2C (Consumer to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปสามารถขายสินค้าให้กับบุคคลอื่นได้ เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, Shopee (หมวดสินค้ามือสอง)
  2.  B2C (Business to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไป เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Amazon
  3. B2B (Business to Business): เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจ เช่น Alibaba, ThaiTrade

Marketplace ใดดีที่สุด?

การเลือก Marketplace เพื่อวางขายสินค้าแล้วถามว่าตลาดไหนดีที่สุด?  ในแต่ละตลาดจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย ค่าธรรมเนียมการขาย และระบบสนับสนุนผู้ขาย โดยในปี 2025 นี้มี Marketplace ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการขายสินค้าในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

  1. Facebook ตลาดออนไลน์ที่เหมาะสำหรับขายสินค้ามือสอง ของใช้ทั่วไป และสินค้าในท้องถิ่น ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  2. Shopee แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท มีระบบสนับสนุนการชำระเงินและจัดส่งสินค้า มีโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
  3. Lazada แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ แบรนด์แท้ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง
  4. JD Central ตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
  5. TikTok Shop แพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าที่สามารถโปรโมตผ่านคอนเทนต์วิดีโอ มีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเข้าถึงคนดูได้อย่างรวดเร็วผ่านการ Live สด
  6. Amazon & eBay แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น

เปรียบเทียบ Marketplace ยอดนิยมในปี 2025

Marketplaceจุดเด่นเหมาะกับสินค้าข้อจำกัด
Facebookใช้งานฟรี, เหมาะกับของมือสองของมือสอง, ของใช้ทั่วไปไม่มีระบบจัดส่ง, การมองเห็นโพสต์ไม่แน่นอน
Shopeeฐานลูกค้าขนาดใหญ่, รองรับ COD(บริการเก็บเงินปลายทาง)สินค้าทั่วไป, อีคอมเมิร์ซค่าธรรมเนียมขาย, แข่งขันสูง
Lazadaระบบร้านค้าดี, Fulfillmentอิเล็กทรอนิกส์, ของใช้ในบ้านค่าธรรมเนียมสูง, ต้องทำการตลาด
TikTok Shopขายผ่านวิดีโอ, ไลฟ์สดเครื่องสำอาง, เสื้อผ้าต้องผลิตคอนเทนต์, อัลกอริธึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
Amazonตลาดสากล, Fulfillmentแบรนด์ที่ต้องการขายต่างประเทศค่าธรรมเนียมสูง, การแข่งขันสูง
eBayขายทั่วโลก, เหมาะกับของสะสมของสะสม, สินค้าหายากต้องตั้งค่าระบบการขายให้ดี

วิธีเลือก Marketplace ให้เหมาะกับสินค้า

  • หากต้องการ ขายของมือสองหรือสินค้าในท้องถิ่น → Facebook Marketplace, Kaidee
  • หากต้องการ ขายสินค้าใหม่ในตลาดทั่วไป → Shopee, Lazada
  • หากต้องการ ใช้วิดีโอและไลฟ์สดในการขาย → TikTok Shop
  • หากต้องการ ขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ → Amazon, eBay
  • หากต้องการ ขายสินค้าแบรนด์แท้หรือพรีเมียม → JD Central

ในปี 2025 Shopee, Lazada และ TikTok Shop ยังคงเป็น Marketplace ยอดนิยมในไทย ส่วน Amazon และ eBay เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ Facebook Marketplace เหมาะสำหรับการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้นก่อนวางขายสินค้าอย่าลืมเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์การขายให้ดี รวมทั้งเลือกระบบขนส่งที่ไว้ได้ใจ เพราะการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนการผลิตและสร้างกำไรจากธุรกิจนั้นได้

ขายของใน Marketplace คืออะไร? Marketplace ใดดีที่สุด?

 เริ่มต้นขายของใน Marketplace ควรเริ่มจากตรงไหนดี? ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Marketplace ก่อนว่ามันคืออะไร  และแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นหรือข้อดีแตกต่างกันยังไง บางที่เหมาะกับสินค้าทั่วไป บางที่เหมาะกับของแฮนด์เมด หรือของนำเข้า การเข้าใจแพลตฟอร์มที่เลือกใช้จะช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อรู้พื้นฐานแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่การเลือกสินค้า การตั้งราคา ไปจนถึงการโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งวันนี้ SME Shipping จะพาคุณไปรู้จักกับ Marketplace ให้มากขึ้นว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับตลาดไหนมากที่สุด

Marketplace คืออะไร?

Marketplace คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Marketplace ก็คือตลาดนัดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ขายก็สามารถลงประกาศขายสินค้า ตั้งราคาขาย และติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง ผู้ซื้อเองก็สามารถเลือกชม เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกขึ้น โดย Marketplace จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

  1. C2C (Consumer to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปสามารถขายสินค้าให้กับบุคคลอื่นได้ เช่น Facebook Marketplace, Kaidee, Shopee (หมวดสินค้ามือสอง)
  2.  B2C (Business to Consumer): เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไป เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Amazon
  3. B2B (Business to Business): เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจ เช่น Alibaba, ThaiTrade

Marketplace ใดดีที่สุด?

การเลือก Marketplace เพื่อวางขายสินค้าแล้วถามว่าตลาดไหนดีที่สุด?  ในแต่ละตลาดจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย ค่าธรรมเนียมการขาย และระบบสนับสนุนผู้ขาย โดยในปี 2025 นี้มี Marketplace ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมสำหรับการขายสินค้าในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

  1. Facebook ตลาดออนไลน์ที่เหมาะสำหรับขายสินค้ามือสอง ของใช้ทั่วไป และสินค้าในท้องถิ่น ไม่เสียค่าธรรมเนียม
  2. Shopee แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภท มีระบบสนับสนุนการชำระเงินและจัดส่งสินค้า มีโปรโมชันดึงดูดลูกค้า
  3. Lazada แพลตฟอร์มตลาดที่เหมาะกับสินค้าประเภทอีคอมเมิร์ซ แบรนด์แท้ มีระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง
  4. JD Central ตลาดออนไลน์ที่เหมาะกับสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
  5. TikTok Shop แพลตฟอร์มที่เหมาะกับสินค้าที่สามารถโปรโมตผ่านคอนเทนต์วิดีโอ มีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเข้าถึงคนดูได้อย่างรวดเร็วผ่านการ Live สด
  6. Amazon & eBay แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น

เปรียบเทียบ Marketplace ยอดนิยมในปี 2025

Marketplaceจุดเด่นเหมาะกับสินค้าข้อจำกัด
Facebookใช้งานฟรี, เหมาะกับของมือสองของมือสอง, ของใช้ทั่วไปไม่มีระบบจัดส่ง, การมองเห็นโพสต์ไม่แน่นอน
Shopeeฐานลูกค้าขนาดใหญ่, รองรับ COD(บริการเก็บเงินปลายทาง)สินค้าทั่วไป, อีคอมเมิร์ซค่าธรรมเนียมขาย, แข่งขันสูง
Lazadaระบบร้านค้าดี, Fulfillmentอิเล็กทรอนิกส์, ของใช้ในบ้านค่าธรรมเนียมสูง, ต้องทำการตลาด
TikTok Shopขายผ่านวิดีโอ, ไลฟ์สดเครื่องสำอาง, เสื้อผ้าต้องผลิตคอนเทนต์, อัลกอริธึมเปลี่ยนแปลงบ่อย
Amazonตลาดสากล, Fulfillmentแบรนด์ที่ต้องการขายต่างประเทศค่าธรรมเนียมสูง, การแข่งขันสูง
eBayขายทั่วโลก, เหมาะกับของสะสมของสะสม, สินค้าหายากต้องตั้งค่าระบบการขายให้ดี

วิธีเลือก Marketplace ให้เหมาะกับสินค้า

  • หากต้องการ ขายของมือสองหรือสินค้าในท้องถิ่น → Facebook Marketplace, Kaidee
  • หากต้องการ ขายสินค้าใหม่ในตลาดทั่วไป → Shopee, Lazada
  • หากต้องการ ใช้วิดีโอและไลฟ์สดในการขาย → TikTok Shop
  • หากต้องการ ขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ → Amazon, eBay
  • หากต้องการ ขายสินค้าแบรนด์แท้หรือพรีเมียม → JD Central

ในปี 2025 Shopee, Lazada และ TikTok Shop ยังคงเป็น Marketplace ยอดนิยมในไทย ส่วน Amazon และ eBay เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ Facebook Marketplace เหมาะสำหรับการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้นก่อนวางขายสินค้าอย่าลืมเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์การขายให้ดี รวมทั้งเลือกระบบขนส่งที่ไว้ได้ใจ เพราะการจัดส่งสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขายของออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนการผลิตและสร้างกำไรจากธุรกิจนั้นได้