BLOG

วิธีการตรวจสอบสถานะการส่งพัสดุระหว่างประเทศ | SME Shipping

วิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ ให้ลูกค้าอุ่นใจ

การส่งพัสดุระหว่างประเทศอาจทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาจัดส่งนานกว่าการส่งภายในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ร้านค้าควรให้ข้อมูลและช่องทางการติดตามพัสดุอย่างชัดเจน ซึ่งบทความนี้ของ SME Shipping จะพาคุณไปดูวิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. แจ้งเลขพัสดุ (Tracking Number) หลังจากจัดส่งสินค้าแล้ว ควรแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้าทันที เพื่อให้สามารถติดตามสถานะได้ตลอดเวลา

2. แนะนำเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะพัสดุ ระบุเว็บไซต์หรือลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะพัสดุของแต่ละบริษัท เช่น:

  • DHL: https://www.dhl.com
  • FedEx: https://www.fedex.com
  • UPS: https://www.ups.com
  • ไปรษณีย์ไทย (EMS World): https://track.thailandpost.co.th

3. ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน แนะนำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปของบริษัทขนส่ง หรือแอปติดตามพัสดุรวม เช่น ParcelTrack, 17TRACK, AfterShip ที่สามารถเช็กสถานะได้หลายเจ้าในที่เดียว

4. อัปเดตสถานะเป็นระยะ หากระบบขนส่งไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ร้านค้าควรแจ้งสถานะให้ลูกค้าเป็นระยะ เช่น สินค้าออกจากคลัง / ถึงศูนย์กระจายสินค้า / อยู่ระหว่างดำเนินการศุลกากร เป็นต้น

ข้อดีของบริการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

การตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ต่อไปนี้คือข้อดีของการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

1. เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

การสามารถติดตามสถานะพัสดุทำให้ลูกค้ารู้ว่าพัสดุของพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และสามารถคาดการณ์วันที่จะได้รับสินค้าตามเวลาที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดส่งที่ล่าช้าหรือสูญหาย

2. ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการจัดส่งได้ดีขึ้น

ร้านค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุระหว่างการขนส่งได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถประสานงานกับบริษัทขนส่งได้ทันทีหากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ การติดตามสถานะยังช่วยร้านค้าในการปรับปรุงการบริการและระยะเวลาจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

3. ลดปัญหาการสูญหายหรือความล่าช้า

การตรวจสอบสถานะพัสดุช่วยให้สามารถรับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากในขั้นตอนการขนส่งเกิดความล่าช้าหรือปัญหาที่อาจทำให้พัสดุสูญหาย ก็จะสามารถแจ้งให้บริษัทขนส่งดำเนินการแก้ไขได้ทันที ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศได้

4. ลดข้อร้องเรียนและการติดต่อสอบถาม

เมื่อลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้เอง ร้านค้าจะได้รับการร้องเรียนหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งน้อยลง ซึ่งทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการติดต่อสอบถามในระหว่างการจัดส่ง

การที่บรีษัทจนส่งเจ้าต่างๆ มีวิธีให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศด้วยตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการติดตามสถานะการจัดส่ง และช่วยลดความกังวลของลูกค้าที่อาจสั่งสินค้ามีราคาสูงแล้วต้องการติดามสถานะอยู่เสมอ อีกทั้งยังทำให้ร้านค้าสามารถจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ด้วย ดังนั้น การตรวจสอบสถานะพัสดุจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้า และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี

วิธีการตรวจสอบสถานะการส่งพัสดุระหว่างประเทศ | SME Shipping

วิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ ให้ลูกค้าอุ่นใจ

การส่งพัสดุระหว่างประเทศอาจทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาจัดส่งนานกว่าการส่งภายในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ร้านค้าควรให้ข้อมูลและช่องทางการติดตามพัสดุอย่างชัดเจน ซึ่งบทความนี้ของ SME Shipping จะพาคุณไปดูวิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. แจ้งเลขพัสดุ (Tracking Number) หลังจากจัดส่งสินค้าแล้ว ควรแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้าทันที เพื่อให้สามารถติดตามสถานะได้ตลอดเวลา

2. แนะนำเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะพัสดุ ระบุเว็บไซต์หรือลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะพัสดุของแต่ละบริษัท เช่น:

  • DHL: https://www.dhl.com
  • FedEx: https://www.fedex.com
  • UPS: https://www.ups.com
  • ไปรษณีย์ไทย (EMS World): https://track.thailandpost.co.th

3. ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน แนะนำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปของบริษัทขนส่ง หรือแอปติดตามพัสดุรวม เช่น ParcelTrack, 17TRACK, AfterShip ที่สามารถเช็กสถานะได้หลายเจ้าในที่เดียว

4. อัปเดตสถานะเป็นระยะ หากระบบขนส่งไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ร้านค้าควรแจ้งสถานะให้ลูกค้าเป็นระยะ เช่น สินค้าออกจากคลัง / ถึงศูนย์กระจายสินค้า / อยู่ระหว่างดำเนินการศุลกากร เป็นต้น

ข้อดีของบริการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

การตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ต่อไปนี้คือข้อดีของการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

1. เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

การสามารถติดตามสถานะพัสดุทำให้ลูกค้ารู้ว่าพัสดุของพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และสามารถคาดการณ์วันที่จะได้รับสินค้าตามเวลาที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดส่งที่ล่าช้าหรือสูญหาย

2. ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการจัดส่งได้ดีขึ้น

ร้านค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุระหว่างการขนส่งได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถประสานงานกับบริษัทขนส่งได้ทันทีหากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ การติดตามสถานะยังช่วยร้านค้าในการปรับปรุงการบริการและระยะเวลาจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

3. ลดปัญหาการสูญหายหรือความล่าช้า

การตรวจสอบสถานะพัสดุช่วยให้สามารถรับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากในขั้นตอนการขนส่งเกิดความล่าช้าหรือปัญหาที่อาจทำให้พัสดุสูญหาย ก็จะสามารถแจ้งให้บริษัทขนส่งดำเนินการแก้ไขได้ทันที ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศได้

4. ลดข้อร้องเรียนและการติดต่อสอบถาม

เมื่อลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้เอง ร้านค้าจะได้รับการร้องเรียนหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งน้อยลง ซึ่งทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการติดต่อสอบถามในระหว่างการจัดส่ง

การที่บรีษัทจนส่งเจ้าต่างๆ มีวิธีให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศด้วยตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการติดตามสถานะการจัดส่ง และช่วยลดความกังวลของลูกค้าที่อาจสั่งสินค้ามีราคาสูงแล้วต้องการติดามสถานะอยู่เสมอ อีกทั้งยังทำให้ร้านค้าสามารถจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ด้วย ดังนั้น การตรวจสอบสถานะพัสดุจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้า และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี

วิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ ให้ลูกค้าอุ่นใจ

การส่งพัสดุระหว่างประเทศอาจทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาจัดส่งนานกว่าการส่งภายในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ร้านค้าควรให้ข้อมูลและช่องทางการติดตามพัสดุอย่างชัดเจน ซึ่งบทความนี้ของ SME Shipping จะพาคุณไปดูวิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. แจ้งเลขพัสดุ (Tracking Number) หลังจากจัดส่งสินค้าแล้ว ควรแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้าทันที เพื่อให้สามารถติดตามสถานะได้ตลอดเวลา

2. แนะนำเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะพัสดุ ระบุเว็บไซต์หรือลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะพัสดุของแต่ละบริษัท เช่น:

  • DHL: https://www.dhl.com
  • FedEx: https://www.fedex.com
  • UPS: https://www.ups.com
  • ไปรษณีย์ไทย (EMS World): https://track.thailandpost.co.th

3. ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน แนะนำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปของบริษัทขนส่ง หรือแอปติดตามพัสดุรวม เช่น ParcelTrack, 17TRACK, AfterShip ที่สามารถเช็กสถานะได้หลายเจ้าในที่เดียว

4. อัปเดตสถานะเป็นระยะ หากระบบขนส่งไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ร้านค้าควรแจ้งสถานะให้ลูกค้าเป็นระยะ เช่น สินค้าออกจากคลัง / ถึงศูนย์กระจายสินค้า / อยู่ระหว่างดำเนินการศุลกากร เป็นต้น

ข้อดีของบริการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

การตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ต่อไปนี้คือข้อดีของการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

1. เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

การสามารถติดตามสถานะพัสดุทำให้ลูกค้ารู้ว่าพัสดุของพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และสามารถคาดการณ์วันที่จะได้รับสินค้าตามเวลาที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดส่งที่ล่าช้าหรือสูญหาย

2. ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการจัดส่งได้ดีขึ้น

ร้านค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุระหว่างการขนส่งได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถประสานงานกับบริษัทขนส่งได้ทันทีหากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ การติดตามสถานะยังช่วยร้านค้าในการปรับปรุงการบริการและระยะเวลาจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

3. ลดปัญหาการสูญหายหรือความล่าช้า

การตรวจสอบสถานะพัสดุช่วยให้สามารถรับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากในขั้นตอนการขนส่งเกิดความล่าช้าหรือปัญหาที่อาจทำให้พัสดุสูญหาย ก็จะสามารถแจ้งให้บริษัทขนส่งดำเนินการแก้ไขได้ทันที ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศได้

4. ลดข้อร้องเรียนและการติดต่อสอบถาม

เมื่อลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้เอง ร้านค้าจะได้รับการร้องเรียนหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งน้อยลง ซึ่งทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการติดต่อสอบถามในระหว่างการจัดส่ง

การที่บรีษัทจนส่งเจ้าต่างๆ มีวิธีให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศด้วยตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการติดตามสถานะการจัดส่ง และช่วยลดความกังวลของลูกค้าที่อาจสั่งสินค้ามีราคาสูงแล้วต้องการติดามสถานะอยู่เสมอ อีกทั้งยังทำให้ร้านค้าสามารถจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ด้วย ดังนั้น การตรวจสอบสถานะพัสดุจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้า และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี

วิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ ให้ลูกค้าอุ่นใจ

การส่งพัสดุระหว่างประเทศอาจทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาจัดส่งนานกว่าการส่งภายในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ร้านค้าควรให้ข้อมูลและช่องทางการติดตามพัสดุอย่างชัดเจน ซึ่งบทความนี้ของ SME Shipping จะพาคุณไปดูวิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. แจ้งเลขพัสดุ (Tracking Number) หลังจากจัดส่งสินค้าแล้ว ควรแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้าทันที เพื่อให้สามารถติดตามสถานะได้ตลอดเวลา

2. แนะนำเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะพัสดุ ระบุเว็บไซต์หรือลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะพัสดุของแต่ละบริษัท เช่น:

  • DHL: https://www.dhl.com
  • FedEx: https://www.fedex.com
  • UPS: https://www.ups.com
  • ไปรษณีย์ไทย (EMS World): https://track.thailandpost.co.th

3. ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน แนะนำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปของบริษัทขนส่ง หรือแอปติดตามพัสดุรวม เช่น ParcelTrack, 17TRACK, AfterShip ที่สามารถเช็กสถานะได้หลายเจ้าในที่เดียว

4. อัปเดตสถานะเป็นระยะ หากระบบขนส่งไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ร้านค้าควรแจ้งสถานะให้ลูกค้าเป็นระยะ เช่น สินค้าออกจากคลัง / ถึงศูนย์กระจายสินค้า / อยู่ระหว่างดำเนินการศุลกากร เป็นต้น

ข้อดีของบริการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

การตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ต่อไปนี้คือข้อดีของการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

1. เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

การสามารถติดตามสถานะพัสดุทำให้ลูกค้ารู้ว่าพัสดุของพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และสามารถคาดการณ์วันที่จะได้รับสินค้าตามเวลาที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดส่งที่ล่าช้าหรือสูญหาย

2. ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการจัดส่งได้ดีขึ้น

ร้านค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุระหว่างการขนส่งได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถประสานงานกับบริษัทขนส่งได้ทันทีหากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ การติดตามสถานะยังช่วยร้านค้าในการปรับปรุงการบริการและระยะเวลาจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

3. ลดปัญหาการสูญหายหรือความล่าช้า

การตรวจสอบสถานะพัสดุช่วยให้สามารถรับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากในขั้นตอนการขนส่งเกิดความล่าช้าหรือปัญหาที่อาจทำให้พัสดุสูญหาย ก็จะสามารถแจ้งให้บริษัทขนส่งดำเนินการแก้ไขได้ทันที ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศได้

4. ลดข้อร้องเรียนและการติดต่อสอบถาม

เมื่อลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้เอง ร้านค้าจะได้รับการร้องเรียนหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งน้อยลง ซึ่งทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการติดต่อสอบถามในระหว่างการจัดส่ง

การที่บรีษัทจนส่งเจ้าต่างๆ มีวิธีให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศด้วยตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการติดตามสถานะการจัดส่ง และช่วยลดความกังวลของลูกค้าที่อาจสั่งสินค้ามีราคาสูงแล้วต้องการติดามสถานะอยู่เสมอ อีกทั้งยังทำให้ร้านค้าสามารถจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ด้วย ดังนั้น การตรวจสอบสถานะพัสดุจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้า และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี

วิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ ให้ลูกค้าอุ่นใจ

การส่งพัสดุระหว่างประเทศอาจทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาจัดส่งนานกว่าการส่งภายในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ร้านค้าควรให้ข้อมูลและช่องทางการติดตามพัสดุอย่างชัดเจน ซึ่งบทความนี้ของ SME Shipping จะพาคุณไปดูวิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. แจ้งเลขพัสดุ (Tracking Number) หลังจากจัดส่งสินค้าแล้ว ควรแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้าทันที เพื่อให้สามารถติดตามสถานะได้ตลอดเวลา

2. แนะนำเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะพัสดุ ระบุเว็บไซต์หรือลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะพัสดุของแต่ละบริษัท เช่น:

  • DHL: https://www.dhl.com
  • FedEx: https://www.fedex.com
  • UPS: https://www.ups.com
  • ไปรษณีย์ไทย (EMS World): https://track.thailandpost.co.th

3. ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน แนะนำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปของบริษัทขนส่ง หรือแอปติดตามพัสดุรวม เช่น ParcelTrack, 17TRACK, AfterShip ที่สามารถเช็กสถานะได้หลายเจ้าในที่เดียว

4. อัปเดตสถานะเป็นระยะ หากระบบขนส่งไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ร้านค้าควรแจ้งสถานะให้ลูกค้าเป็นระยะ เช่น สินค้าออกจากคลัง / ถึงศูนย์กระจายสินค้า / อยู่ระหว่างดำเนินการศุลกากร เป็นต้น

ข้อดีของบริการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

การตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ต่อไปนี้คือข้อดีของการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

1. เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

การสามารถติดตามสถานะพัสดุทำให้ลูกค้ารู้ว่าพัสดุของพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และสามารถคาดการณ์วันที่จะได้รับสินค้าตามเวลาที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดส่งที่ล่าช้าหรือสูญหาย

2. ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการจัดส่งได้ดีขึ้น

ร้านค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุระหว่างการขนส่งได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถประสานงานกับบริษัทขนส่งได้ทันทีหากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ การติดตามสถานะยังช่วยร้านค้าในการปรับปรุงการบริการและระยะเวลาจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

3. ลดปัญหาการสูญหายหรือความล่าช้า

การตรวจสอบสถานะพัสดุช่วยให้สามารถรับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากในขั้นตอนการขนส่งเกิดความล่าช้าหรือปัญหาที่อาจทำให้พัสดุสูญหาย ก็จะสามารถแจ้งให้บริษัทขนส่งดำเนินการแก้ไขได้ทันที ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศได้

4. ลดข้อร้องเรียนและการติดต่อสอบถาม

เมื่อลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้เอง ร้านค้าจะได้รับการร้องเรียนหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งน้อยลง ซึ่งทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการติดต่อสอบถามในระหว่างการจัดส่ง

การที่บรีษัทจนส่งเจ้าต่างๆ มีวิธีให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศด้วยตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการติดตามสถานะการจัดส่ง และช่วยลดความกังวลของลูกค้าที่อาจสั่งสินค้ามีราคาสูงแล้วต้องการติดามสถานะอยู่เสมอ อีกทั้งยังทำให้ร้านค้าสามารถจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ด้วย ดังนั้น การตรวจสอบสถานะพัสดุจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้า และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี

วิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ ให้ลูกค้าอุ่นใจ

การส่งพัสดุระหว่างประเทศอาจทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลาจัดส่งนานกว่าการส่งภายในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ร้านค้าควรให้ข้อมูลและช่องทางการติดตามพัสดุอย่างชัดเจน ซึ่งบทความนี้ของ SME Shipping จะพาคุณไปดูวิธีตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. แจ้งเลขพัสดุ (Tracking Number) หลังจากจัดส่งสินค้าแล้ว ควรแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้าทันที เพื่อให้สามารถติดตามสถานะได้ตลอดเวลา

2. แนะนำเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะพัสดุ ระบุเว็บไซต์หรือลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะพัสดุของแต่ละบริษัท เช่น:

  • DHL: https://www.dhl.com
  • FedEx: https://www.fedex.com
  • UPS: https://www.ups.com
  • ไปรษณีย์ไทย (EMS World): https://track.thailandpost.co.th

3. ติดตามผ่านแอปพลิเคชัน แนะนำให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอปของบริษัทขนส่ง หรือแอปติดตามพัสดุรวม เช่น ParcelTrack, 17TRACK, AfterShip ที่สามารถเช็กสถานะได้หลายเจ้าในที่เดียว

4. อัปเดตสถานะเป็นระยะ หากระบบขนส่งไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ร้านค้าควรแจ้งสถานะให้ลูกค้าเป็นระยะ เช่น สินค้าออกจากคลัง / ถึงศูนย์กระจายสินค้า / อยู่ระหว่างดำเนินการศุลกากร เป็นต้น

ข้อดีของบริการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

การตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและมั่นใจ ต่อไปนี้คือข้อดีของการตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศ

1. เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า

การสามารถติดตามสถานะพัสดุทำให้ลูกค้ารู้ว่าพัสดุของพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการจัดส่ง และสามารถคาดการณ์วันที่จะได้รับสินค้าตามเวลาที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดส่งที่ล่าช้าหรือสูญหาย

2. ช่วยให้ร้านค้าบริหารจัดการการจัดส่งได้ดีขึ้น

ร้านค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุระหว่างการขนส่งได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถประสานงานกับบริษัทขนส่งได้ทันทีหากเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดใดๆ การติดตามสถานะยังช่วยร้านค้าในการปรับปรุงการบริการและระยะเวลาจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น

3. ลดปัญหาการสูญหายหรือความล่าช้า

การตรวจสอบสถานะพัสดุช่วยให้สามารถรับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากในขั้นตอนการขนส่งเกิดความล่าช้าหรือปัญหาที่อาจทำให้พัสดุสูญหาย ก็จะสามารถแจ้งให้บริษัทขนส่งดำเนินการแก้ไขได้ทันที ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศได้

4. ลดข้อร้องเรียนและการติดต่อสอบถาม

เมื่อลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้เอง ร้านค้าจะได้รับการร้องเรียนหรือสอบถามเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งน้อยลง ซึ่งทำให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการติดต่อสอบถามในระหว่างการจัดส่ง

การที่บรีษัทจนส่งเจ้าต่างๆ มีวิธีให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสถานะพัสดุระหว่างประเทศด้วยตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการติดตามสถานะการจัดส่ง และช่วยลดความกังวลของลูกค้าที่อาจสั่งสินค้ามีราคาสูงแล้วต้องการติดามสถานะอยู่เสมอ อีกทั้งยังทำให้ร้านค้าสามารถจัดการการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ด้วย ดังนั้น การตรวจสอบสถานะพัสดุจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีในการช็อปปิ้งของลูกค้า และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี