ข้อกฎหมายขนส่งต่างประเทศที่ผู้ประกอบการต้องรู้
การส่งออกหรือนำเข้าสินค้าไม่ใช่แค่เรื่องของต้นทุน การเลือกบริษัทขนส่ง หรือภาษีนำเข้าเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจ “กำหนดความสำเร็จหรือความเสี่ยง” ของธุรกิจ นั่นก็คือ “ข้อกฎหมายด้านการขนส่งระหว่างประเทศ” ซึ่งหากผู้ประกอบการละเลยหรือไม่เข้าใจให้ดี อาจนำไปสู่ปัญหา เช่น สินค้าถูกยึด ติดศุลกากร หรือถูกฟ้องร้องในต่างประเทศได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ ในบทความนี้ของ SME Shipping จะพาไปดูว่ากฎหมายขนส่งต่างประเทศสำคัญอย่างไร และเรื่องไหนที่คุณควรรู้ไว้ก่อนทำการค้าโลก
ทำไม “ข้อกฎหมายขนส่งต่างประเทศ” ถึงสำคัญ?
เมื่อธุรกิจเริ่มขยายสู่ตลาดต่างประเทศ สิ่งที่ผู้ประกอบการมักให้ความสำคัญคือเรื่องราคา การขนส่ง และภาษีนำเข้า แต่มีอีกหนึ่งองค์ประกอบที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ “ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศ” ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สามารถสร้างผลกระทบต่อทั้งต้นทุน ระยะเวลา และความปลอดภัยของสินค้าได้โดยตรง หากไม่เข้าใจหรือดำเนินการผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่การสูญเสียทางธุรกิจได้อย่างไม่คาดคิด แล้วทำไมกฎหมายเหล่านี้จึงมีน้ำหนักมากขนาดนี้?
- ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย เพราะการไม่เข้าใจกฎหมายของประเทศปลายทาง เช่น สินค้าต้องห้าม สินค้าควบคุม หรือข้อกำหนดบรรจุภัณฑ์ อาจทำให้สินค้า ถูกกักไว้ หรือต้องเสียค่าปรับจำนวนมาก
- ป้องกันปัญหาทางธุรกิจ หากขนส่งผิดเงื่อนไขหรือเอกสารไม่ครบตามกฎหมาย อาจทำให้ลูกค้าปลายทางรับสินค้าไม่ได้ หรือเกิดปัญหาเรื่อง ความรับผิดชอบระหว่างผู้ส่ง-ผู้ขนส่ง-ผู้รับได้
- เสริมภาพลักษณ์มืออาชีพ ซึ่งลูกค้าต่างประเทศย่อมวางใจหากผู้ประกอบการมีความรู้เรื่องกฎหมายและสามารถจัดการเอกสารหรือข้อกำหนดข้ามประเทศได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
เรื่องที่ผู้ประกอบการต้องรู้ก่อนส่งออกสินค้า
- INCOTERMS คือเงื่อนไขทางการค้าสากลที่กำหนด ความรับผิดชอบระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ความเสี่ยง และเอกสารต่าง ๆ ในแต่ละขั้นตอนของการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่ง ภาษีศุลกากร หรือความเสียหายของสินค้า เช่น FOB, CIF, DDP ฯลฯ ระบุความรับผิดชอบเรื่องค่าขนส่ง ภาษี และความเสี่ยงในระหว่างการขนส่ง
- HS Code และข้อจำกัดของสินค้า ที่มีรหัสศุลกากร (HS Code) บ่งชี้ประเภทสินค้าเพื่อใช้คำนวณภาษีและตรวจสอบข้อจำกัด เช่น สินค้าบางประเภทต้องมีใบอนุญาตพิเศษหรือห้ามส่งออกไปยังบางประเทศ
- กฎหมายศุลกากรของประเทศปลายทาง ซึ่งแต่ละประเทศมีกฎที่ไม่เหมือนกัน เช่น ออสเตรเลียมีข้อกำหนดเข้มงวดเรื่องไม้และอาหาร หรือสหรัฐฯ มีข้อจำกัดกับสินค้าจากบางประเทศ
- กฎหมายการขนส่งระหว่างประเทศ (เช่น Hague-Visby, Hamburg Rules) กำหนดความรับผิดชอบของบริษัทขนส่ง กรณีเกิดความเสียหายหรือสูญหายระหว่างทาง
- เอกสารทางการค้า เช่น Invoice, Packing List, ใบขนสินค้า, ใบรับรองแหล่งกำเนิด (CO), ใบอนุญาตส่งออก/นำเข้า เอกสารเหล่านี้ต้องถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายของทั้งสองประเทศ
ข้อกฎหมายขนส่งต่างประเทศเป็น “เรื่องจำเป็น” ที่ผู้ประกอบการควรเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ เพราะการเข้าใจในข้อกฎหมายไม่เพียงแค่เพื่อความปลอดภัยของสินค้าและชื่อเสียงของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกที่จะทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วย